- รูปแบบเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบัน
- พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
- การประยุกต์ใข้่เทคโนดฯลีสารสนเทศกับการเรียนการสอน
รูปแบบเทคโนดลยีสารสนเทศในปัจจุบัน
เทคโนโลยีสารสนเมศสามารถจำแนกตามลักษณะการใช้งานได้เป็น 6 รูปแบบ ดังนี้ต่อไปนี้ คือ1. เทคโนโลยีที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เช่น ดาวเทียมถ่ายภาพทางอากาศ,กล้องดิจิทัล,กล้องถ่ายวีดิทัศน์,เครื่องเอกซเรย์
2. เทคโนโลยีที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล เป็นสื่อบันทึกข้อมูลต่างๆ เช่น เทปแม่เหล็ก,จานแม่เหล็ก,จานแสงหรือจานเลเซอร์,บัตรเอทีเอ็ม
3. เทคโนโลยีที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล ได้แก่ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
4. เทคโนโลยีที่ใช้ในการแสดงผลข้อมูล เช่น เครื่องพิมพ์,จอภาพ,พลอดเตอร์ฯ
5. เทคโนโลยีที่ใช้ในการจักการทำสำเนาเอกสาร เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร,เครื่องถ่ายไม่โครฟิล์ม
6. เทคโนโลยีสำหรับถ่ายทอดหรือสื่อสารข้อมูลได้แก่ ระบบโทรคมนาคมต่างๆ เช่น โทรทัศน์,วิทยุกระจายเสียง,โทรเลข,เทเล็กซ์และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั้งระยะใกล้และระยะไกล
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมีการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในรูปแบบต่างๆ ทั้งในทางธุรกิจและทางการศึกษา ดังตัวอย่าง เช่น
- ระบบเอทีเอ็ม
- การบริการและการนำธุรกิจกรรมบนอินเทอร์เน็ต
- การลงทะเบียนเรียน
พฤติกรรมการใช้เทคดนดลยีสารสนเทศ
พฤติกรรมการใช้เทคโนดลยีสารสนเทศคืออะไรการแสดงออกทางความคิดแลความรู้สึกในการใช้รูปแบบของเทคโนโลยีทุกประเภท ที่นำมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการจัดหา จัดเก็บ สร้างและเผยแพร่สารสนเทศในรุปแบบต่างๆ ได้แก่ ภาพ ข้อความหรือตัวอักษร ตัวเลขและภาพเคลื่อนไหว เป็นต้น
การใช้อินเตอร์เน็ต
งานวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมารใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของนักศึกษาในสถานบันอุดมศึกษาพบว่านักศึกษาส่วนใหญ่ใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อความบันเทิง เนื่องจากเห็นว่ามีความสะดวกในการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น ในขณะที่การใช้อินเตอร์เน็ตของนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาส่วนใหญ่ใช้เพื่อการเรียนรู้ การติดตามข่าวสารของสถานศึกษา
ใช้อินเตอร์เน็ต ทำอะไรได้บ้าง?
งานวิจัยว่า นักศึกษาใช้อินเตอร์เน็ตในการสนทนากับเพื่อนๆและการค้นข้อมูลจจากห้องสมุด
นอกจากนี้งานวิจัยยังชี้ว่า นักศึกษาส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ และประกอบการทำรายงาน
สถานที่ที่มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
งานวิจัยพบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่ ใช้คอมพิวเตอรืที่บ้าน และมีการใช้อินเทอร์เน็ตที่ห้องสมุดของสถาบัน
นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีการใช้หรือมีการใช้เทคดนโลยีสารสนเทศน้อย ในรุปแบบไหนบ้าง?
งานวิจัยชี้ว่า นักศึกษามีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเหล่านี้น้อย ได้แก่ ฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ การเรียนรุ้แบบออนไลน์หรือ e-Learning วิดีทัศน์ตามอัธยาศัย (video on Damand) หนังอิเล็กทรอนิกส์และบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
การประยุกต์ใช่เทคโนดลยีสารสนเทศกับการเรียนการสอน
* การเรียนรู้แบบออนไลน์ (e-Learning)* บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (computer Assisted Inatrction - CAI) หรือ (Computer Aided Instruction)
* วีดิทัศน์ตามอัธยาศัย (Viaeo on Demand - VOD)
* หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Books)
* ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ (e-Library)
* การเรียนรู้แบบออนไลน์ (e-Learning)
เป้นการศึกษา เรียนรุ้ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต (Internet) หรืออินทราเน็ต (Intranet) เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ตามความสามารถและความสนใจของตน โดยเนื้อหาของบทเรียนซึ่งประกอบด้วย ข้อความ รุปภาพ เสียง วิดิโอและมัลติมิเดียอื่นๆ จะถูกส่งไปยังผู้เรียนผู้สอนและเพื่อนร่วมชั้นเรียนทุกคน สามารถติดต่อปรึกษา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้ เช่นเดียวกับการเรียนในชั้นเรียนปกติ โดยอาศัยเครื่องมือการติดต่อสื่อสารที่ทันสมัยสำหรับทุกคน โดยผู้เรียนสามารถเรียนรุ้ได้ทุกเวลาและทุกสถานที่ (Learning for all : anyone anywhere and anytime)
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเรียนการสอน
* บทเรียนคอวพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction - CAI)
คือ บทเรียนคอมพิวเตอร์ซึ่งนำเสนอสารสนเทศที่ได้ผ่านกระบวนการสร้างและพิจารณามาเป็นอย่างดี โดยมีเนื้อหาวิชาหรือสารสรเทศ แบบฝึกหัด การทดสอบและการให้ข้อมูลป้อนกลับให้ผุ้เรียนได้ของตนเอง เนื้อหาวิชาที่นำเสนอจะอยุ่ในรูปมัลติมีเดีย ซึ่งประกอบด้วย อักษร รูปภาพ เสียงและ/หรือ ทั้งภาพและเสียง ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการนำหลักการเบื้องต้นทางจิตวิยาการเรียน***โดนอาศัยพฤติกรรมการเรียนรู้ (Learning Behavior) ทฤษฎีการเสริมแรง (Reinforcement Theory) ทฤษฎีการวางเงื่อนไขปฏิบัติ (Operant Conditioniog Theory) ซึ่งถือว่าความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนองและการเสริมแรงเป็นสิ่งสำคัญ โดยมีจุดมุ่งหมายนำผู้เรียนไปสู่การเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งอาศัยการตอบสอนที่มีการวางโปรแกรมไว้ล่วงหน้า เป็นการให้ผู้เรียนมีโอกาสเรียนรุ้ได้ด้วยตนเองแลัมีผลย้อนกลับทันทีและเรียนรู้ไปทีละขั้นตอนอย่างเหมาะสมตามความต้อวการและความสามารถของตน
* วีดีทัสน์ตามอัธยาศัย (Video on Demand - VDO)
คือ ระบบการเรียนดูภาพยนตร์ตามสิ่งที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกดูภาพยนตร์หรือข้อมูลภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงได้ตามต้องการ ตามสโลแกนที่ว่า "To view what one wants, when one wants". โดยสามารถใช้งานนี้ได้จากเครืองข่ายสื่อสาร (Telecommunications Networks) ผู้ใช้งาน ซึ่งอยุ่หน้าเครื่องลูกข่าย (Video Client) สามารถเรียกดูข้อมูลที่เป็นภาพเคลื่อไหวได้ทุกเมื่อตามต้องการและสามารถควบคุมข้อมูลวีดิโอนั้นๆ โดยสามารถย้อนกลับ (Rewind) หรือกรอไปข้างหน้า (Forward) หรือหยุดชั่วคราว (Pause) ได้เปรียบเสมือนการดูวีดิโอที่บ้านนั่นเองทั้งนี้เครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่ายไม่จำเป็นต้องดูข้อมูลเดียวกันกล่าวคืดสามารถภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน หรือ ต่างกันก็ได้
* หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-books)
คือ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านได้ทางอินเทอร์เน็ต โดยมีเครื่องมือที่จำเป็นในทางอินเทอร์เน็ต โดยมีเครื่องมือที่จำเป็นในการอ่านหนังสือประเภทนี้คือ ฮาร์แวร์ประเภทเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาอื่นๆ พร้อมทั้งติดตั้งระบบปฏิบัติการหรือซอฟต์แวร์ที่ใช้อ่านข้อความต่างๆ ตัวอย่างเช่น ออร์แกไนเซอร์แบบพกพา พีดีเอ เป็นต้น ส่วนการดึง e-books ซึ่งจะอยู่บนเว็บไซต์ที่ให้บริการทางด้านนี่มาอ่านก็จะใช้วิธีการดาวน์โหลดผ่านทางอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ ลักษณะไฟล์ของ e-books จะสามารถเลือกได้ 4 รูปแบบ คือ Hyper Text Markup Language (HTML) , Portable Document Format (PDF) Peanut Markup Language (PML) และ Extensive Markup Lanuage (XML)
* ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ (e-library)
เป็นแหล่งความรู้ที่บันทึกข้อมูลไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายและให้บริการสารสนเทศทางอิเล็กทรอนิกส์หรือผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
คุณลักษณะที่สำคัญของห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์มีดังนี้
1. การจัดการทรัพยากรสารสนเทศด้วยคอมพิวเตอร์2. ความสามารถในการเข้าถึงสารสนเทศโดนทางอิเล็กทรอนิกส์
3. บรรณารักษ์หรือบุคลากรของห้องสุมดสามารถแทรกการติดต่อระหว่างผู้ใช้กับห้อวสมุดได้ เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ได้โดยทางอิเล็กทรอนิกส์
4. ความสามารถในการจัดเก็บรวบรวมและนำส่งสารสนเทศสู่ผุ้ใช้โดยทางอิเล็กทรอนิกส์